วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เมื่อผู้ชายพายเรือ ผู้หญิงจะยิงเรือทำไม?

สมัยเด็กๆนั้นเคยมีสำนวนไทยที่สงสัย ผู้เขียนเองก็เคยตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมผู้ชายถึงพายเรือ แล้วผู้หญิงทำไมถึงต้องยิงเรือ? เคยเรียนถามผู้ใหญ่ที่บ้านอยู่เนืองๆว่า ทำไมต้องเป็นแบบนี้ หลายท่านได้ให้ความเห็นไว้ว่า ผู้หญิงที่จะยิงเรือนั้นเพราะคอยที่จะทำลายเรือของผู้ชาย ผู้หญิงประเภทนี้ไม่น่าคบเอาเลย
เมื่อดูถึงความหมายของสำนวนไทยที่ว่า “ผู้ชายพายเรือ ผู้หญิงยิงเรือ” นั้นในโบราณได้เปรียบการพายเรือเสมือนกับหนทางเข้าสู่นิพพาน ส่วนผู้หญิงนั้นเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุนิพพานนั่นเอง ในปัจจุบันความหมายก็เปลี่ยนไปผู้ชายเจ้าชู้ ผู้หญิงก็ไม่ดี ซึ่งความหมายเปลี่ยนไปตามสมัยนิยม
เมื่อครั้งอาจารย์ของผู้เขียนได้สั่งให้อ่านหนังสือเรื่อง บ่อเกิดรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 นั้น ก็พบว่า พระองค์ท่านใช้สำนวนนี้ว่า “ผู้ชายพายเรือ ผู้หญิงริงเรือ” ซึ่งผู้เขียนแปลกใจว่า ในสมัยพระองค์กับสมัยปัจจุบัน เหตุใด “ริง” ถึงกลายเป็น “ยิง” ไปได้ สาเหตุของการกลายเสียงแบบนี้อาจจะทำให้คนปัจจุบันเข้าใจความหมายของสำนวนเก่านี้ก็เป็นได้
ด้านวรรณศิลป์ของสำนวนนี้มีสัมผัสที่น่าสนใจคือ ผู้หญิงริงเรือ มีสัมผัสสระในคำว่า “หญิง – ริง” และมีสัมผัสพยัญชนะที่คำว่า “ริง – เรือ” ถ้าเป็นแบบนี้ผู้เขียนจึงเห็นว่า ปัจจุบันน่าจะเข้าใจผิดที่ผู้หญิงยิงเรือ เพราะในแง่วรรณศิลป์คนโบราณน่าจะสร้างสำนวนนี้ให้มีทั้งสัมผัสสระและพยัญชนะก็เป็นได้
หากเรามองในด้านภาษานั้น อาจจะสันนิษฐานได้ว่า การที่คำว่า “ริง” นั้นกลายเป็น “ยิง” อาจจะเป็นการกลมกลืนเสียงของภาษา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของภาษาไทยอยู่แล้ว การกลมกลืนเสียง คือ การที่เสียงพยางค์หลังถูกเสียงพยางค์หน้านั้นกลมกลืนทำให้เป็นเสียงเดียวกัน เช่น อย่างไร กลายเป็น อย่างไรในที่นี้จะเห็นได้ว่า เสียง “ง” เป็นเสียงที่ออกง่ายกว่า “ร” เนื่องจากเสียง “ร” เป็นเสียงรัว ซึ่งออกยากกว่า “ง” คงเป็นทำนองเดียวกัน เราจะเห็นจากรูปประโยคที่ว่า
ผู้หญิงริงเรือ เมื่อเสียง “ย” (รูป “ญ” ในภาษาไทยมาตรฐานออกเสียงเป็น “ย” เช่นเดียวกับรูป “ย” แต่ในภาษาไทยถิ่นนั้นรูป “ญ” ยังคงออกเสียงเป็น “ญ” อยู่ คือ ออกเสียงเป็นเสียงพยัญชนะนาสิก หรือ ที่เรารู้จักกันคือ เสียงที่ขึ้นจมูกนั่นเอง) เป็นเสียงที่ออกง่ายกว่า เสียง “ร” ซึ่งเป็นเสียงรัว อวัยวะในช่องต้องกระดกลิ้นเพื่อให้ลมออกมาข้างลิ้น (ถ้าหากไม่มีการฝึกหัดจะไม่สามารถออกเสียงแบบนี้ได้ เสียงรัวในภาษามีหลายแบบ เช่น เสียง “r”ที่รัวในหน้าอก ในภาษาฝรั่งเศส หรือ เสียง “r” ในภาษาฮินดี บาลีและสันสกฤตที่ออกเสียงรัวที่ปลายลิ้น) คนไทยซึ่งมีความนิยมรักสบายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเลือกที่จะออกเสียงที่ง่ายมากกว่าการออกเสียงที่ยากกว่า ในที่นี้ก็คือ เลือกที่จะออกเสียง “ย” แทนที่จะออกเสียง “ร” ดังนั้นเราจึงได้สำนวนไทยใหม่ คือ ผู้หญิงยิงเรือ ตามการกลมกลืนเสียงของลักษณะทางภาษา
เมื่อเราเข้าใจแบบนี้ก็จะเห็นว่า คนไทยปัจจุบันเข้าใจสำนวนผิดและให้ความเป็นมาของสำนวนอย่างผิดๆ กล่าวคือ เรามักให้ความเป็นมาว่าผู้หญิงยิงเรือนั้น เหตุที่ต้องยิงเรือ เนื่องจากผู้หญิงมีปืนหรืออาวุธร้ายที่คอยจะทำลายเรือของผู้ชาย
ในวรรณคดีเก่าครั้งอยุธยา เรื่องขุนช้าง-ขุนแผน ได้กล่าวว่า ผู้ชายพายเรืออยู่เต็มไป ในเรื่องพระอภัยมณีก็กล่าวไว้ว่า เห็นผู้หญิงริงเรือที่เนื้อเหลือง ถ้าเราจะสันนิษฐานความหมายจากวรรณคดีเหล่านี้ ก็คงสรุปได้เพียงว่า ผู้ชายพายเรือ ก็คือ ผู้ชายธรรมดาทั่วไป ส่วนผู้หญิงริงเรือ ก็หมายความว่า ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป สำหรับพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ก็ให้ความหมายแบบเดียวกัน ไม่ว่า “ผู้หญิงจะริงเรือ หรือ ผู้หญิงจะยิงเรือ” ในสำนวนไทยทั้งสองยุคก็ให้ความหมายที่ไม่ดีของความเป็นผู้หญิง แต่เป็นไปในทัศนะที่ต่างกัน คือ ในอดีตผู้หญิงเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่นิพพาน แต่ในปัจจุบันผู้หญิงมีอาวุธที่คอยทำลายผู้ชาย เอาเป็นว่าอย่างไรนั้นผู้หญิงก็คือ เครื่องขัดขวางความสำเร็จของผู้ชาย ไม่ว่าผู้หญิงจะอยู่ในยุคใดสมัยใด ก็ตกอยู่เพียงใต้อำนาจของผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงไทยนี่น่าสงสารเสียนี่กระไร.

[B][en][g][i][li][ty]--Memorize

[B][en][g][i][li][ty]--Memorize
ทุกคำบรรยายเพียงจับจ้องและสัมผัสด้วยใจ